Database ดีกว่าโปรแกรม FileBase อย่างไรหากพูดถึงระบบบัญชี Database(Client/Server) แล้วหลายคนคงจะคุ้นหูคุ้นตากันดี และก็พอจะรู้ว่ามันคืออะไร แต่เชื่อว่ายังมีอยู่ไม่น้อยที่ยังไม่รู้ถึงประโยชน์ที่แท้จริงว่ามีอยู่มากมายเพียงใดของระบบนี้ เรามาดูกันเถอะว่า ข้อดี ของระบบ Client/Server มีอะไรบ้าง จนถึงขนาดที่องค์กรบางแห่งต้องหันมาพิจารณาใช้ระบบนี้ เพื่อให้เหมาะกับงานของตนเอง โดยช่วงแรกจะให้จะให้ผู้อ่านได้เห็นถึงข้อดีของระบบClient/Server แล้วหลังจากนั้นเราจึงค่อยมาเจาะลึกในรายละเอียดกัน
โดยทั่วไปเราจะทราบกันว่า ระบบงาน Client/Server เป็นเรื่องของการเชื่อมโยงตัว Client กับตัว Server ให้สามารถติดต่อกันได้ ซึ่งถ้ามองอย่างนี้จะคล้ายกับระบบ LAN แต่จริง ๆ แล้วระบบ Client/Server มีความสามารถให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่านี้ และมีระดับของเทคโนโลยีที่สูงกว่า LAN เนื่องจากแนวคิดหรือลักษณะของระบบ Client/Server ดูจะสอดคล้องและเหมาะสมกับความเป็นไปที่แท้จริงของโลกปัจจุบันในเรื่องของธุรกิจและธุรกรรมอื่น ๆเพราะหน่วยงานธุรกิจหรือองค์กรต่าง ๆ จะทั้งของรัฐ เอกชนหรือหน่วยงานใดก็ตาม ประเทศต่างๆในโลกนี้มักจะประกอบไปด้วยสาขา ฝ่าย แผนก ซึ่งก็มีทั้งที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน และคนละบริเวณกัน ยิ่งโลกของการดำเนินธุรกิจหมุนไปเร็วขึ้นเท่าใด ต่างก็พยายามสร้างโอกาสในทางธุรกิจโดยให้ หน่วยงานของตนไปอยู่ตามภูมิภาค สถานที่ต่าง ๆ ซึ่งในความเป็นจริงก็คงจะยากในการที่จะรวมศูนย์ (Centralized) การทำงาน การบริหารงาน และการให้บริการระบบงานคอมพิวเตอร์ไว้ในที่เดียวกัน อีกทั้งไม่สามารถให้บริการระบบงานต่าง ๆ ที่มีมากมายจากทุกหน่วยงาน ทุกฝ่าย ทุกแผนก และทุก ๆ บุคลากรได้ในระยะเวลาเดียวกันแม้ว่าจะอยู่ในบริเวณเดียวกันก็ตาม ดังนั้นแนวคิดและเทคโนโลยีของระบบ Client/Server จึงเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจและพัฒนากันมาก รวมทั้งยังเป็นคำตอบให้กับผู้ที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบายหรือทิศทางการพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์ ในองค์กรได้ว่า ควรจะให้เป็นไปในรูปแบบไหน
ใช้เทคโนโลยีแบบใด จึงเหมาะสมกับธุรกิจและการลงทุนและสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีในอนาคตได้
ข้อดี หรือประโยชน์ของระบบงาน Database(Client/Server) ที่จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น
1. ในด้านการลงทุน
1.1 ช่วยประหยัดงบประมาณ
1.2 มีความยืดหยุ่น และสามารถขยายขีดความสามารถได้
1.3 ช่วยเพิ่ม และทำให้เกิดประสิทธิผลสูง
1.4 สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธฺภาพ
2.สะดวกในการบริหารและควบคุมจากส่วนกลาง
3.เหมาะสมที่สุดกับองค์กรที่มีการติดต่อเชื่อมโยง กันในระบบเครือข่าย ตั้งแต่ 5 จุดขึ้นไป
4. มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ดีเยี่ยม
5. ยืดหยุ่นเนื่องจากเป็นระบบเปิด
1. ในด้านการลงทุน
การที่เราจะลงทุนแต่ละครั้งเงินที่จะลงทุนไปได้มาจากการจัดสรรปันส่วนงบประมาณจากองค์กร ซึ่งถ้าหากเรานำงบประมาณมาลงทุนได้ไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.1 ช่วยประหยัดงบประมาณ
ประหยัดงบประมาณในเรื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เกี่ยวข้องต่อเนื่อง (Hardware & Equipment) เพราะในปัจจุบันการแข่งขันจากผู้ผลิต ผู้ขายคอมพิวเตอร์ รวมทั้งผู้ให้บริการ ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีความสามารถเพิ่มขึ้นและราคา Hardware ก็ถูกลงมาก โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ PC ซึ่งราคาก็ถูกกว่าคอมมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (Mainframe/Mini-computer) ดังนั้นแทนที่องค์กรหรือหน่วยงานใดจะใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ และมีราคาแพงก็หันมาใช้เครื่อง PC ที่มีราคาถูกลง แต่ประสิทธิภาพสูงได้ หรืออาจใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้วในองค์กรได้เลยโดยกำหนด ประกอบกับการออกแบบระบบข้อมูล และเครือข่ายให้เหมาะสมกับลักษณะงานและประสิทธิภาพของเครื่อง
ประหยัดในเรื่องของ Software และ Application เพราะไม่จำเป็นต้องเจาะจงใช้กับยี่ห้อใด หรือรุ่นใด แต่สามารถเปิดกว้างใช้ได้กับทุกประเภท จึงสามารถใช้ Application หรือ Software ที่มีอยู่เดิมได้ โดยไม่ต้องซื้อใหม่ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้ใหม่หรือเสียค่า Implement ใด ๆ อีกในส่วนของ Database Management System (DBMS) ซึ่งมีประโยชน์อย่างสูงในเรื่องของการจัดการกับระบบฐานข้อมูล ที่แต่เดิมเคยมีราคาสูง ปัจจุบันได้มีการปรับลดราคาลงในระดับที่น่าจะสามารถจัดหามาใช้กับข้อมูลที่มีจำนวนมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษได้
1.2 มีความยืดหยุ่นและสามารถขยายขีดความสามารถได้ (Flexibility & Scalability)
ระบบงานแบบ Client / Server นี้ สามารถใช้ตัวระบบปฏิบัติการ (Operating System) ได้หลายประเภท หลากชนิด เช่น MS-DOS, MS-Windows, Apple System-7, Series, IBM, OS/2 ส่วนของ Application Software และ Hardware มีความยืดหยุ่นและสามารถขยายขีดความสามารถได้ เช่น ตัวเครื่อง PC เราอาจเปลี่ยน Processor, เพิ่ม RAM, เพิ่ม/เปลี่ยน Disk Storage หรือเพิ่ม Options ต่าง ๆ ได้
1.3 ช่วยเพิ่มและทำให้เกิดประสิทธิภาพสูง
การพัฒนาระบบงานประยุกต์ในแบบของ Client / Server สามารถแยกงานและโปรแกรมออกเป็นโปรแกรมที่ทำงานกับ Client (Font-End) และโปรแกรมที่ทำงานกับ Server (Back End) ได้ตามความเหมาะสม และมีการแบ่งการทำงานการประมวลผลระหว่าง Client กับ (Database) Serverเราจึงสามารถออกแบบระบบงานเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของระบบงานและการลงทุนได้ นอกจากนั้นยังเป็นการแบ่งเบาภาระการทำงานของ Server ก่อให้เกิดผลผลิต และการประมวลผลมากขึ้น ซึ่งเป็นการใช้ Server กับ Client ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเต็มความสามารถอีกด้วย เกิดประสิทธิผลในการใช้งานจากผู้ใช้ระบบงาน (EndUser) เพราะว่าผู้ใช้ระบบสามารถพัฒนาระบบงานได้เอง โดยอาศัยเครื่องมือในการพัฒนาระบบงานและโปรแกรมในปัจจุบันที่ใช้ง่ายใช้เวลาในการเรียนรู้ไม่นาน ทันสมัย เช่น ภาษา รุ่นที่ 4 (Fourth Generetion Language) มาพัฒนางานในบางส่วน เช่น รายงานการวิเคราะห์ ข้อมูลตัวเลข หรือฐานข้อมูลง่าย ๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเลย หรือไม่ต้องพึ่งพามากนักในส่วนนักพัฒนาระบบงานนั้นการเขียนโปรแกรมการออกแบบ และพัฒนาระบบงานประยุกต์ ก็สามารถทำได้รวดเร็ว เพราะระบบ Client / Server นั้นสามารถแบ่งงานกันพัฒนาได้ อีกทั้งยังมี Development tools มาช่วยอีกด้วย และการโอน ย้ายระบบงานประยุกต์จาก Environment Platform หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้
1.4 สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ
ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น การรับ-ส่งข้อมูลบนเครือข่ายมีปริมาณน้อยลง เนื่องจากว่า (Database) Server สามารถเก็บบันทึกคำสั่งบางอย่างไว้เพื่อใช้ในบางกรณีได้ด้วย ทำให้การประมวลผลข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นไม่ต้องเสียเวลาใช้คำสั ่งซ้ำ ๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายของระบบเครือข่ายได้ด้วย
2. สะดวกในการบริหาร และควบคุมจากส่วนกลาง (Centralized Control)
เราสามารถควบคุมการสั่งการ การทำงานประมวลผล ได้จากศูนย์กลางโดยกำหนด โปรแกรมที่ Server ให้ทำหน้าที่ควบคุม Database และเงื่อนไขการประมวลผลได้
3. เป็นระบบที่เหมาะสมที่สุดกับองค์กรที่มีการติดตั้งระบบเครือข่าย
ที่มีการติดต่อเชื่อมโยงกัน 5 จุด (คน) ขึ้นไป จะทำให้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4. มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
ในกรณี Database Server โดยส่วนใหญ่ข้อมูลใน Database Server จะถูกจัดการ แบบ Relation Database Management System (RDBMS) ซึ่งมีคุณสมบัติและความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระดับต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ภายนอกระบบ Database Management System (DBMS) เข้าถึงระบบฐานข้อมูลไม่ได้ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับข้อมูลที่มีจำนวนมาก และข้อมูลที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งโดยส่วนใหญ่องค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ต้องการสิ่งที่จะมาจัดการดูแลเกี่ยวกับข้อมูลของตน เพราะในปัจจุบันโลกเราเป็นโลกของข่าวสารข้อมูล นอกจาจะต้องมีความฉับไวในการหาข้อมูลแล้ว ยังต้องสามารถเก็บข้อมูลที่มีจำนวนมากได้ และต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแข็งแกร่งเพื่อไม่ให้ผู้อืนที่ไม่พึงประสงค์มาจัดการกับข้อมูลนั้น ๆ ได้ สำหรับ Commercial RDBMS ที่เราพอจะคุ้น ๆ กันก็เช่น Informix, Oracle, Sybase, DB2 ยังมีคุณสมบัติในการติดตามการเปลี่ยนแปลงข้อมูลและช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากกรณี Database Server เสียหายได้ด้วย
5. มีความยืดหยุ่นเนื่องจากเป็นระบบเปิด (Open System)
สามารถใช้กับ Database Application ที่หลากหลายได้ และใช้ Application Software ที่หลากหลายหรือที่เราคุ้นเคยได้ โดยผู้พัฒนาระบบงานสามารถเลือกใช้ Font-End, Programming Langyage และ Developement tools ได้ตามความเหมาะสม
- ทำงานภายใต้ Environment และ Platform ที่หลากหลายได้ แล้วแต่ความเหมาะสมของระบบงานเน็ตเวิร์ค
- ทำงานประมวลผลข้ามระหว่างระบบงานต่าง ๆ ได้ และสามารถโยกย้ายระบบงานจาก Platform หนึ่งไปยังอีก Platform หนึ่งได้ (Portability)
จากข้อดีทั้งหลายที่อธิบายมานี้ คงจะทำให้ผู้อ่านหลายคนได้เข้าใจถึงข้อดีของการทำงานระบบ Client / Server กันมากขึ้น