FORMA TRD&ERP
ReadyPlanet.com
dot dot dot
dot
Software & Module
dot
bulletFORMA TRD&ERP
bulletFormula SQL
bulletFormula SQL Express
dot
Software & Package
dot
bulletFormula winning
bulletBOQ- รับเหมาก่อสร้าง
bulletPOS
dot
Support
dot
bullet- แนะนำ(ก่อนเริ่มโปรแกรม)
bullet- ออกแบบฟอร์มพิมพ์
bullet- ขั้นตอนติดตั้ง FM
bullet- การปิดบัญชี
bullet- ประเภทเอกสารในระบบ
dot
Reference Site
dot
bullet- Site Formula
bulletDemo
dot
Service
dot
bulletบริการหลังการขาย
bulletMA
bulletหลักสูตรการอบรม




dot
FORMA TRD&ERP


  FORMA ERP (Enterprise Resource Planning)


        คือซอฟท์แวร์ที่เชื่อมโยงระบบต่างๆขององค์กรเข้าด้วยกัน ทั้งระบบงานทางด้านบัญชี และการเงินที่เป็นส่วนแบ็คออฟฟิศ ระบบทรัพยากรบุคคล ระบบการผลิต ตลอดจนระบบการกระจายสินค้า ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยงระบบต่างๆที่มีอยู่ในองค์กรนี้เอง จึงทำให้ทุกฝ่ายทำงานอย่างต่อเนื่อง สะดวก และลดขั้นตอนการทำงาน รวมทั้งช่วยให้ผู้บริหารมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำในการตัดสินใจทางธุรกิจอีกด้วย

        องค์กรยุคใหม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT (Information Technology) เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กรในทุกๆด้าน หนึ่งในหลายๆระบบที่องค์กรมองหาเพื่อพัฒนา ศักยภาพใน การผลิต คือ ระบบ MRP (Materials Requirement Planning) ซึ่งเป็นระบบช่วยวางแผนทางด้านการผลิต การจัดการวัตถุดิบและเครื่องจักร ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิต (Manufacturer) สามารถบริหารปริมาณสินค้าคงคลังและมีการใช้ทรัพยากรเพื่อการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

      นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคำนวณราคาต้นทุน ในการผลิตที่แท้จริงได้อีกด้วย Forma MRP สามารถทำงานแยกอิสระ หรือเชื่อมโยงกับระบบ Forma Financial ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ได้กับอุตสาหกรรมในหลายประเภท ทั้งแบบการผลิตตามสั่ง (Make to Order) และแบบการผลิตเพื่อเก็บเข้าคลัง (Make to Stock), แบบ Discrete , Repetitive, Assembly, Batch และ Job Shop 

     โปรแกรมบัญชีที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่เป็นนักบัญชีอย่างแท้จริง เพราะถูกต้องตามหลักภาษีและสรรพากรไทย มีความยืดหยุ่นสูง คล่องตัว เรียนรู้ได้ง่ายและสามารถใช้งานได้จริง ประกอบด้วย 8 ระบบหลัก ซึ่งสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีด้วยเทคโนโลยี Client/Server ซึ่งสามารถใช้งานได้กับ Hardware platform ที่หลากหลาย เช่น Server ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการ Windows 2000 , Linux , Unix , OS/400 (IBM) Client ใช้ได้กับ Microsoft Windows ทุกเวอร์ชั่น

     นอกจากนี้ Forma ยังทำงานได้ดีบน Database หลากหลายเช่น Informix (IBM) ,Oracle, DB 2 (IBM), SQL Serverซึ่งรองรับปริมาณงานในระดับมากกว่า 1 ล้าน Transactions

 

สำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต

การที่จะเป็น ERP นั้นจะต้องประกอบการทำงานที่รองรับทั้ง 3 ส่วนงานหลัก คือ

- Manufacturing
- Distribution
- Accounting

       ซึ่งปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟท์แวร์มาตรฐานเพื่อรองรับส่วนงานทั้ง 3 ส่วนนี้อย่างสมบูรณ์แบบ รายแรกและรายเดียวที่พัฒนาขึ้นโดยคนไทย เพื่อรองรับวัฒนธรรมการทำงานแบบไทย ๆ คือ ระบบ Forma ERP ของบริษัท คริสตอลซอฟท์ จำกัด โดยมี บริษัทเมอริทซอฟท์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่าย และ Implement ซอฟท์แวร์

สำหรับ ระบบ Forma ERP มีการรองรับดังต่อไปนี้

ต้นทุน และงบประมาณ
- สามารถรองรับการทำ JOB-ORDER COSTING/PROCESS COSTING และ HYBRID-PRODUCT COSTING SYSTEM รวมทั้ง ACTIVITY-BASED COSTING ได้อย่างแท้จริง เพื่อบริหารต้นทุนของแต่ละกิจกรรม หากเป็นอุตสาหกรรมการผลิตก็ยิ่งต้องการทราบว่าต้นทุนการผลิตตามแต่ละล็อตที่ผลิตจริง ๆ นั้นมีต้นทุนมาจากต้นทุนวัตถุดิบทางตรง ต้นทุนแรงงานทางตรง เท่าไร เพื่อจะได้ทราบกำไร ขาดทุน เบื้องต้น บางครั้งส่งผลต่อการเจรจาธุรกิจ

- สามารถควบคุมงบประมาณในระดับโครงการและแผนงานอย่างได้ผล และการควบคุมงบประมาณนี้ สามารถควบคุมงบประมาณในโครงการที่ข้ามปีได้ไม่จำกัดปี และสามารถเปรียบเทียบยอดใช้จริงกับงบประมาณได้ตลอดเวลา

- มีรายงานในการวิเคราะห์หรือประเมินผลงานแยกตามหน่วยงาน เช่น งบกำไรขาดทุน งบค่าใช้จ่ายแยกแต่ละแผนหรือโครงการ

- รองรับฟังก์ชันการทำงานของส่วนงาน Distribution ซึ่งประกอบด้วย ระบบขาย ระบบซื้อ และ ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง

ระบบขาย
- เมื่อมีการจองหรือเปิดใบสั่งซื้อของลูกค้า สามารถทยอยส่งของได้จนกว่าจะหมดหรือสั่งยกเลิกใบสั่งซื้อนั้นได้
- ที่ใบสั่งซื้อ โปรแกรมจะควบคุมยอดที่ลูกค้าสั่งซื้อ และค้างส่งได้
- เมื่อบันทึกการขายโปรแกรม ช่วยตัดลูกหนี้ ตัดสต็อค เก็บข้อมูลเพื่อออกรายงานภาษีขาย เก็บสถิติการขาย และลงบัญชีให้ทันที (หรือจะยังไม่ลงบัญชี หรือลงบัญชีแล้วรอให้ฝ่ายบัญชีตรวจสอบก่อน แล้วจึงสั่ง Post ทีหลัง) และสามารถเรียกดูรายงานวิเคราะห์การขายได้ทันที
- รองรับการขายสินค้าเป็นชุด เป็น LOT เป็น Serial Number
- สามารถรองรับการระบุและจัดทำสินค้าโปรโมชั่นได้ เพื่อลดขั้นตอนการทำงานไม่ว่าจะเป็นการลดราคาหลายระดับในแต่ละรายการสินค้าใน Invoice ใบเดียวกัน
- สามารถกำหนดนโยบายราคา ส่วนลด และการแถมสินค้าโดยคำนวณจากจำนวนสินค้า ที่เป็นแบบขั้นบันไดได้
- สามารถบันทึกรับเงินมัดจำโดยรับชำระเงินเป็นเงินสด เช็ค เงินโอน บัตรเครดิต ได้ตั้งแต่ขั้นตอนบันทึกใบสั่งขาย ใบส่งของและสามารถหักยอดกับใบเสร็จรับเงินให้อัตโนมัติ
- สามารถขายสินค้าได้โดยไม่ต้องผ่านการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้า
- สามารถพิมพ์ดูรายการเอกสารของลูกหนี้-เจ้าหนี้รายตัวสรุปในแต่ละวันได้
- สามารถเรียกดูรายการยอดค้างรับของลูกหนี้รายตัวได้ พร้อมทั้งแสดงให้ทราบว่าค้างด้วยรายการเอกสารใบใดบ้าง
- สามารถวิเคราะห์อายุลูกหนี้และเจ้าหนี้รายตัวได้โดยแสดงเป็นยอดสรุปหรือ แสดงรายการเอกสารให้เห็นก็ได้
- สามารถอนุมัติได้ว่า จะขายสินค้าเกินวงเงินเครดิตได้หรือไม่ โดยสามารถกำหนดได้ว่าใครจะมีอำนาจในการอนุมัติได้บ้าง
- สามารถออกรายการสินค้าค้างส่งเพื่อติดตามส่งให้ลูกค้าในครั้งต่อไปได้
- สามารถกำหนดหน่วยนับคุม Stock สินค้าได้ 2 ระบบ พร้อม ๆ กัน โดยในแต่ละระบบจะมีหน่วยนับกี่หน่วยก็ได้ เช่นเหล็ก 3 เส้น หนัก 22 กิโลกรัม (เหล็กแต่ละเส้นไม่จำเป็นต้องมีน้ำหนักเท่ากัน)
- กำหนดรูปแบบการบริหารสต็อคได้เองว่าถ้าสินค้าในสต็อคไม่พอขาย จะยอมให้ขายสินค้านั้นไปก่อนหรือไม่

ระบบซื้อ
- สามารถกำหนดรูปแบบของเอกสารต่าง ๆ ได้ เช่น ใบสั่งซื้อ (PO) ใบรับสินค้า เป็นต้น
- รองรับสกุลเงินต่างประเทศได้ไม่จำกัดสกุลเงิน
- เก็บรายการสินค้าค้างส่งเพิ่มติดตามสินค้าของผู้ขายรายนั้น ๆ ในครั้งต่อไปได้
- เก็บสถิติการซื้อและลงบัญชีให้ทันที (หรือจะยังไม่ลงบัญชี หรือลงบัญชีไว้แต่ยังไม่สั่ง POST แล้วรอให้ฝ่ายบัญชีมาตรวจสอบรายการทีหลัง) และสามารถเรียกดูรายงานวิเคราะห์การซื้อได้ทันที
- พิมพ์รายงานภาษีซื้อตามแบบที่สรรพกรกำหนด
- พิมพ์รายงานภาษีซื้อยื่นเพิ่มเติม
- สามารถระบุ SERIAL NUMBER ของสินค้าในใบสั่งซื้อหรือในบิลซื้อได้
- รายงานการซื้อแยกตามผู้ขาย แยกตามสินค้า
- สรุปยอดซื้อแยกตามผู้ขาย (เปรียบเทียบ 12 เดือน)

ระบบสินค้าคงคลัง
- สามารถกำหนดคลังสินค้าได้หลายคลัง
สามารถเลือกวิธีการคิดต้นทุนได้หลากหลาย อาจจะทำได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แบบต้นทุนถัวเฉลี่ย (Weighted Average), แบบเข้าก่อน-ออกก่อน (FIFO : First-In First-Out), ต้นทุน Specify แบบระบุ LOT, และต้นทุน Specify แบบระบุ Serial
- สามารถวิเคราะห์สินค้าวัตถุดิบคงเหลือ และรายงานสินค้าและวัตถุดิบซึ่งมีข้อมูลครบถ้วน ตามที่สรรพากรกำหนด สำหรับซอฟท์แวร์ที่พัฒนาเพื่อสนับสนุนการทำงานของธุรกิจในเมืองไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับสรรพากรไทยด้วย
- สามารถรองรับการกำหนดสินค้าว่ามี จุดสั่งซื้อ (Re-Order Point) หรือสินค้าที่ถึงจุด Safety Stock พร้อมเตือนให้ทราบว่าต้องสั่งซื้อสินค้าชนิดใดเข้ามาเพิ่มในสต็อคเพื่อให้การขายเป็นไปอย่างต่อเนื่อง * สามารถวิเคราะห์สถานะสินค้า เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้า
- สามารถวิเคราะห์รายสินค้าที่ไม่มีการขายหรือไม่มีการเคลื่อนไหว เพื่อการตัดสินใจจัดส่งเสริมการขาย ลดราคา แจก แถม อีกครั้ง
- สามารถวิเคราะห์สินค้าที่ถึงจุดสั่งซื้อ
- สามารถวิเคราะห์สินค้าค้างส่งแยกตามสินค้าตามวันที่นัดส่งของให้ลูกค้า
- สามารถทำใบรับสินค้าสำเร็จ ใบเบิกวัตถุดิบ ใบเบิกวัสดุสิ้นเปลือง ใบรับคืนวัตถุดิบ และใบรับคืนวัสดุสิ้นเปลืองแยกแต่ละแผนกได้
- สามารถแยกแยะรายการเบิกใช้วัตถุดิบ วัสดุสิ้นเปลืองรวมถึงการรับคืนของแต่ละหน่วยงานได้
เช่น ใบรับสินค้าสำเร็จเข้าคลัง ใบเบิกวัตถุดิบไปใช้ ใบเบิกวัสดุสิ้นเปลือง ใบรับคืนวัตถุดิบเหลือจากการผลิต
- สามารถออกแบบฟอร์มของเอกสารต่าง ๆ ได้ เช่น ใบเบิกวัตถุดิบ ใบเบิกวัสดุสิ้นเปลือง ฯลฯ
- สามารถกำหนดหน่วยนับคุม Stock สินค้าได้
- สามารถวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าและวัตถุดิบแบบถัวเฉลี่ยและแบบ FIFO แยกแต่ละสาขาได้
- สามารถวิเคราะห์การใช้ไปของวัตถุดิบ วัสดุสิ้นเปลืองของแต่ละแผนกได้
- สามารถวิเคราะห์และตรวจสอบการใช้วัตถุดิบ วัสดุสิ้นเปลืองของแต่ละหน่วยงานได้

รองรับการทำงานของส่วนงานการเงินและการบัญชี
- กำหนดรูปแบบของเอกสารต่าง ๆ ได้เช่น ใบรับวางบิล (Billing Slip) ใบจ่ายเงิน (Receipt) และใบลดหนี้/ใบคืนสินค้า (Credit Note) เป็นต้น
- พิมพ์รายงานใบกำกับสินค้าที่ถึงกำหนดวางบิลพร้อมใบรับวางบิลแยกตามเจ้าหนี้
- พิมพ์รายงานใบรับวางบิลที่ถึงกำหนดจ่ายเงินแยกเจ้าหนี้แต่ละราย เพื่อช่วยการตรวจสอบ
- รับชำระหนี้ได้ง่ายโดยเลือก INVOICE ทั้งหมดหรือตัดจ่ายหนี้บางส่วนก็ได้
- สามารถวิเคราะห์สภาพหนี้ทั้งแบบละเอียดและสรุปเป็นรายเจ้าหนี้ได้
- พิมพ์ AGING REPORT ได้ทั้งแบบยอดสรุปหรือมีรายละเอียดแยก
- สามารถวิเคราะห์ยอดหนี้ค้างชำระแยกตามลูกค้า
- สามารถแสดงการ์ดเจ้าหนี้
- หากมีการซื้อขายกับต่างประเทศควรวิเคราะห์สรุปกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

รองรับระบบงานทางด้านการผลิต (Manufacturing)
การวางแผนการผลิต
ระบบการวางแผนการผลิตถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการทำงานจริงในประเทศไทย จึงมีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับแผนการผลิตได้ทุกขั้นตอนก่อนทำการผลิตจริง เพราะในการผลิตจริงนั้นอาจมีการแทรก Order ที่เร่งด่วนได้ตลอดเวลา จึงอาจทำให้สิ่งที่วางแผนไว้ต้องทำการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาด้วย เพื่อให้ทันต่อความต้องการของตลาด ที่มีการแข่งขันสูงในสภาวะปัจจุบัน

การวางแผนวัตถุดิบ(Material Requirement Planning, MRP)
การวางแผนความต้องการในการใช้วัตถุดิบ เพื่อให้สามารถจัดหาวัตถุดิบได้ในปริมาณที่เหมาะสม และทันตามเวลาที่ต้องการใช้ผลิตในแต่ละช่วงเวลา หลังจากที่ได้วางแผนการผลิตเรียบร้อยแล้ว ระบบสามารถ RUN MRP เพื่อประมวลผลความต้องการในการใช้วัตถุดิบ และสั่งผลิตสินค้าเพื่อให้สามารถผลิตได้ทัน ตามที่ได้วางแผนไว้ โดยระบบจะทำการเช็คยอดสต็อคที่มีอยู่ ว่าเพียงพอสำหรับความต้องการหรือไม่ หากสต็อคมีไม่เพียงพอตามที่ต้องการ ระบบควรจะสามารถทำการสร้างใบขอซื้อให้อัตโนมัติ โดยระบบจะพิจารณาข้อมูล Lead Time ในการสั่งซื้อ เพื่อให้สามารถซื้อสินค้าเข้ามาทันตามเวลาที่ต้องการใช้ผลิต และระบบจะทำการสร้างเอกสารใบสั่งผลิต โดยพิจารณาข้อมูล Lead Time ในการผลิตด้วย เพื่อให้สามารถผลิตได้ทันตามกำหนดที่ต้องส่งมอบให้ลูกค้า

โครงสร้างผลิตภัณฑ์ (Product Structure)
โครงสร้างของการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ( FG ) แต่ละตัว ว่าต้องผ่านกระบวนการอะไร ผลิตที่ไหนและต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง ซึ่งประกอบด้วย BOM ( Bill Of Materials ) คือ สูตรการผลิตของสินค้า ซื่อประกอบด้วย วัตถุดิบที่ต้องใช้ ซึ่งอาจจะมีการระบุ วัตถุดิบทดแทน และ Semi Product ซึ่งอาจจะทำการจ้างผลิตจากภายนอก หรืออาจจะทำการผลิตเองก็ได้ ซึ่งระบบ Forma MRP จะมีการระบุ Sub BOM ในการผลิต Semi Product ได้ไม่จำกัดชั้น Routing คือ เส้นทางในการผลิตสินค้า ว่าจะผ่านกระบวนการผลิตอะไรบ้าง ซึ่งกระบวนการนั้นจะทำการผลิตที่สถานที่ตรงไหน และต้องใช้เครื่องจักรอะไรบ้างในการผลิตแต่ละขั้นตอน

ธุรกรรมการเงินการธนาคาร
เนื่องจากธุรกรรมการเงินการธนาคารจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของระบบหลาย ๆ ส่วน และยังช่วยให้ผู้บริหาร สามารถทราบถึงสถานภาพการเงินในบัญชีธนาคารได้ทันที
- สามารถจัดทำรายการฝาก-ถอนเงินสด โอนเงินระหว่างธนาคาร รายการจ่าย ดอกเบี้ยธนาคาร ฯลฯ
- เมื่อบันทึกใบนำฝากเข้าธนาคาร (Pay-in Slip) ซึ่งหากโปรแกรมจะช่วยลงบัญชีให้อัตโนมัติ จะยิ่งดีมาก ๆ เพื่อลดขั้นตอนการทำงานลงได้
- สามารถบันทึกสถานะเช็คเพื่อ Update ข้อมูลตาม Bank Statement
- สามารถจัดทำรายการทางด้านเช็คนำฝากเช็คผ่าน และจัดการกับเช็คที่มีปัญหา (ทั้งเช็ครับและเช็คจ่าย)
- สามารถพิมพ์รายงานการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร ( Bank Statement ) ได้
- สามารถพิมพ์รายงานต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบหรือทำ Bank Reconcile ได้
- สามารถพิมพ์รายงาน Outstanding Cheque ได้
- รองรับการทำ Posted date cheque (เช็คล่วงหน้า) ระบุสถานะของเช็คได้ว่าเป็นเช็คผ่าน เช็คคืน หรือ เป็นเช็คยังไม่นำเข้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางองค์กรอาจเลือกใช้ตามความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าหากโปรแกรมรองรับก็จะเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการทำงาน
- พิมพ์ทะเบียนเช็ครับมีปัญหาแยกตามลูกค้า
- สามารถออกแบบฟอร์มพิมพ์ใบนำฝากเข้าธนาคาร (Pay-in Slip)
- สามารถจัดพิมพ์รายงานทั้งเช็ครับและเช็คจ่าย เพื่อตรวจสอบได้
- สามารถพิมพ์ทะเบียนเช็คเรียงตามวันที่จ่ายได้
- สามารถพิมพ์เช็ครับ เช็คจ่าย เรียงตามวันที่เช็คได้
- สามารถพิมพ์เช็ครับเรียงตามลูกค้าและเรียงตามเจ้าหนี้ได้
- สามารถพิมพ์เช็คจ่ายเรียงตามเลขที่เช็ค เลขที่ใบสั่งจ่ายได้

บริหารสินทรัพย์
- สามารถบันทึกและเก็บประวัติของสินทรัพย์ได้
- เชื่อมโยงระหว่างระบบสินทรัพย์กับระบบบัญชีแยกประเภท ลงบัญชีให้อัตโนมัติ
- คำนวณค่าเสื่อมราคา ละเอียดระดับวัน
- สามารถเก็บประวัติการซ่อมบำรุงสินทรัพย์ และสามารถบันทึกค่าซ่อมบำรุงเพื่อคิดค่าเสื่อมให้ได้
- เลือกวิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ได้ ทั้งแบบเส้นตรง (STRAIGHTLINE) และแบบลดน้อยถอยลง (DECLINED) สามารถคิดค่าเสื่อมแยกตามหน่วยงานที่ใช้สินทรัพยนั้นอยู่ได้เพื่อบริหารต้นทุนสินทรัพย์ในระดับลึกได้

การสั่งพิมพ์แบบฟอร์มพิมพ์ต่าง ๆ

- สามารถกำหนดและออกแบบแบบฟอร์มในการพิมพ์เอกสารได้ด้วยตนเอง และต้องสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เนื่องจากบางครั้งธุรกิจของเราอาจจะต้องยืดหยุ่นเรื่องการพิมพ์เอกสาร โดยเฉพาะเอกสารที่ส่งให้ลูกค้าเช่น ใบส่งของ/ใบเสร็จ ลูกค้าอาจจะต้องการให้เราใส่ข้อมูลบางอย่างเข้าไปให้ โดยลูกค้าแต่ละรายอาจจะไม่เหมือนกัน

นอกจากซอฟท์แวร์ ERP น่าจะรองรับระบบงานต่าง ๆ ดังกล่าวมาข้างต้นทั้งหมดแล้วท้ายที่สุดสิ่งที่น่าจะเป็นหัวใจอีกอย่าง ก็คือความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมาก ๆ และขาดไม่ได้







Copyright © 2010 All Rights Reserved.
บริษัทเมอริทซอฟท์ จำกัด Tel. 02-678-1223 , 086-412-5424 HOTLINE:สายตรง เจ้าหน้าที่ 089-482-2228, 086-080-1234 Email merit_soft@hotmail.com, meritsoft@gmail.com,surathananart@gmail.com เลขที่ 48/153 ซ.พระรามเก้า43 ถ.เสรี4 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. 10250